แชร์

เช็กอาการและวิธีป้องกัน ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A

172 ผู้เข้าชม
เช็กอาการและวิธีป้องกัน ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A

        หากพูดถึงโรคยอดฮิตที่มักระบาดในฤดูฝนก็คงหนีไม่พ้น โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) โดยเฉพาะ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ซึ่งถือเป็นไข้วัดใหญ่สายพันธ์ที่มี ความอันตรายและความรุนแรงมากที่สุดเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่น

        ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A จะมีระยะฟักตัวประมาณ 1-3 วัน โดยเชื้อไวรัสจะอยู่ใน เสมหะ น้ํามูก และน้ําลาย หากมีการไอ จาม รดกัน หรือไปสัมผัสถูกสารคัดหลั่งเหล่า นี้ของผู้ป่วย ก็จะมีโอกาสติดเชื้อได้ทันที

        อาการของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A มีดังนี้

        - ปวดศีรษะอย่างหนัก
        - ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะในบริเวณหลัง ต้นแขน ต้นขา
        - อ่อนเพลีย
        - ไอแห้ง เจ็บคอ
        - มีน้ํามูกใส คัดจมูก หายใจไม่สะดวก
        - เบื่ออาหาร บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ร่วมด้วย
        - ในเด็กเล็กจะมีไข้สูง ร่วมกับอาการถ่ายเหลว คลื่นไส้ อาเจียน และชักจากไข้สูง



        โดยปกติแล้วระยะการหายจากโรคจะอยู่ในช่วง 5-7 วัน แต่บางรายก็อาจจะเกิด ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น หูชั้นกลางอักเสบ ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอด อักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ปลายประสาทอักเสบ และสมองอักเสบ ซึ่งอาจทําให้เสีย ชีวิตได้

        กลุ่มคนที่ต้องเฝ้าระวังสังเกตอาการเป็นพิเศษ คือ กลุ่มคนชราที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป เด็กเล็กที่อายุต่ํากว่า 5 ขวบ ซึ่งมีภูมิต้านทานต่ํา หญิงตั้งครรภ์ คนอ้วนที่มี น้ําหนักตัวเกิน 100 กิโลกรัมขึ้นไป หรือคนที่มีโรคประจําตัว เช่น เบาหวาน ไขมันใน เลือดสูง ความดันโลหิตสูง หอบหืด ทาลัสซีเมีย เป็นต้น

การรักษาโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A

        แพทย์จะจ่ายยาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ยาลดน้ํามูก ยาแก้ไอ ยาละลาย เสมหะ ผงเกลือแร่ สําหรับคนที่มีอาการท้องเสีย กินได้น้อย ร่างกายอ่อนเพลีย หากมี อาการรุนแรง อาจจะพิจารณาให้นอนโรงพยาบาลร่วมกับการรับประทานยาต้านไวรัส ไข้หวัดใหญ่

การป้องกันการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A

        เนื่องจากเป็นโรคที่สามารถติดต่อกันได้ง่าย ควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อ ต้องเดินทางด้วยขนสาธารณะหรือไปสถานที่แออัด ล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่และน้ําสะอาด โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสจุดที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ลูกบิดประตู โต๊ะ โทรศัพท์ ปุ่มลิฟต์ และ บันไดเลื่อน พักผ่อนให้เพียงพอและหมั่นออกกําลังกายอย่างสม่ําเสมอ

        สําหรับ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ จะมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ทุกปีที่ระบาด ดังนั้น เราจึงควรฉีดวัคซีนกระตุ้นทุกปี ปีละ 1 ครั้ง แม้ว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะไม่ สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็สามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อน
รุนแรงหลังการติดเชื้อได้ ด้วยความห่วงใย จาก สหประกันชีวิต

บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ (Cookies Policy)
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy