แชร์

กินอย่างไรให้ปลอดภัยในวันที่ค่าฝุ่น PM2.5 สูงเกินปริมาณ

137 ผู้เข้าชม

        นาทีนี้คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเท่ากับสถานการณ์ฝุ่นพิษ PM2.5 อีกแล้วเพราะนับวันก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ทางภาครัฐจะพยายามสร้างมาตรการต่างๆ ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหา อาทิ การเปิดให้ประชาชนใช้บริการขนส่งสาธารณะฟรี ทั้งรถเมล์และรถไฟฟ้า แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ช่วยทำให้สถานการณ์ฝุ่นเบาบางลงมากสักเท่าไหร่

        แต่ที่ได้ผลดีและประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย คือ มาตรการ Work FromHome (WFH) เพราะนอกจากจะช่วยลดการเกิดฝุ่นแล้ว ยังช่วยให้ประชาชนไม่ต้องออกมาเผชิญกับมลภาวะที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วย แต่ทว่ามาตรการดังกล่าวก็สามารถใช้ได้กับเฉพาะหน่วยงานที่มีความพร้อมเท่านั้น ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ต้องจำใจใช้ชีวิตร่วมกับฝุ่นพิษนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

        ด้วยเหตุนี้เอง สหประกันชีวิต ห่วงใยในสุขภาพของทุกคน จึงขอนำความรู้ดีๆ เกี่ยวกับ การกินอย่างไรให้ปลอดภัยในวันที่ค่าฝุ่น PM2.5 สูงเกินปริมาณ จะมีอาหารอะไรที่เป็นประโยชน์กับเราบ้าง ไปติดตามพร้อมกันเลย

        1.อาหารที่อยู่ในกลุ่มวิตามินเอ และที่มีสารเบต้าแคโรทีนเพราะมีส่วนช่วยการทำงานของปอด ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของ
ปอดดีขึ้น รวมทั้งสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ดีขึ้น ดังนั้น แนะนำให้รับประทานพืชผักจำพวก ตำลึง ผักบุ้ง แครอท ฟักทอง มันเทศ มันหวาน เหล่านี้เป็นพืชผักที่มีวิตามิเอสูง และมีเบต้าแคโรทีนสูง มีส่วนช่วยระบบการทำงานของปอด

        2.อาหารที่มีวิตามินซี ช่วยลดการอักเสบเพราะการหายใจเอา "ฝุ่นพิษ" เข้าไป อาจมีผลกระทบให้อวัยวะภายในร่างกายเกิดการอักเสบได้ ซึ่งสารอาหารที่มีวิตามินซี มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระและมีส่วนช่วยยับยั้งการอักเสบของร่างกาย ดังนั้น แนะนำให้กินผักและผลไม้สดโดยเฉพาะที่มีวิตามินซีสูง อาทิ มะม่วง สับปะรด ฝรั่ง มะละกอ รับประทานให้เพียงพอในแต่ละวัน ประมาณ 210-280 กรัม ร่างกายจะได้รับวิตามินซี ที่จะไป
ช่วยลดการอักเสบ ซึ่งเป็นผลมาจากฝุ่นพิษลงได้

        3.อาหารที่มีสารอาหารในกลุ่มโอเมก้า 3มีผลการวิจัยในกลุ่มผู้สูงอายุที่พักอาศัยในเขตที่มีฝุ่นหนาแน่น พบว่า หาก
ได้รับอาหารที่มีสารอาหารโอเมก้า 3 ประมาณวันละ 2 กรัม ช่วยลดกระทบจากฝุ่นPM 2.5 ลงได้ ทั้งนี้วัตถุดิบอาหารที่พบสารโอเมก้า 3 อยู่เป็นจำนวนมาก ได้แก่สัตว์จำพวกปลา ทั้งปลาน้ำเค็ม และปลาน้ำจืด เช่น ปลาดุก ปลาสวาย ปลาตะเพียน ปลาช่อน หรือปลาทู รับประทานอย่างน้อยวันละ 1 ตัว จะได้สารโอเมก้า 3 ที่จะมาช่วยเสริมเป็นเกราะกำบังให้ร่างกายลดผลกระทบจากฝุ่นลงไปได้

        4.อาหารที่มีสารอาหารในกลุ่มซัลฟูราเฟน เพราะคือสารต้านอนุมูลอิสระประเภทหนึ่ง มีส่วนช่วยในการลดการอักเสบและช่วยกำจัดสารก่อมะเร็ง สารจำพวกนี้พบได้ตามธรรมชาติ และอยู่ในอาหารที่เรากินเข้าไป ส่วนใหญ่พบในพืชผัก อาทิ บรอกโคลี กะหล่ำปลี กินผักเหล่านี้ มีส่วนช่วยขจัดสารพิษ และเสริมให้ร่างกายมีความแข็งแรงมากขึ้

        ซึ่งอาหารทั้งหมดนี้ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นกับร่างกายของเราอยู่แล้วในแต่ละวันยิ่งในช่วงเวลาที่ค่าฝุ่นมากเกินมาตรฐานแบบนี้ ยิ่งต้องกินอย่างสม่ำเสมอมากกว่านั้นคือการหมั่นดูแลร่างกายในด้านอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย เช่น การออกกำลังกายในที่ร่ม เพื่อให้ร่างกายมีความแข็งแรง รวมทั้งสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นอยู่เสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ ทั้งหมดจะช่วยเป็นเสมือนเกราะคุ้มกันให้ร่างกายต่อสู้ต้านกับฝุ่นพิษได้เป็นอย่างดี

 

        ที่มาข้อมูล : สำนักข่าวไทยพีบีเอส รายการคนสู้โรค ตอน อาหารต้านฝุ่นพิษ


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ (Cookies Policy)
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy