เคล็ด (ไม่ลับ) ดูแลตัวเองให้ปลอดภัย จากฝุ่น PM2.5
อย่างที่ทราบกันดีว่าปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในบ้านเราได้กลับ มาอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงอีกครั้ง ด้วยปัจจัยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ในช่วงฤดูหนาวทําให้มลพิษนิ่งไม่ขยับหรือเรียกว่า "ลักษณะอากาศปิด" อีกทั้งการเผาพื้นที่ทางการเกษตรโดยเฉพาะภาคเหนือของประเทศและประเทศรอบข้าง รวมถึงควันด่าจากท่อไอเสียรถยนต์ที่ไม่ได้มีการตรวจเช็กสม่ําเสมอ
ด้วยเหตุนี้ จึงกลายเป็นมลพิษสะสมที่แพร่กระจายออกมาในรูปของฝุ่น ละอองขนาดเล็กอย่างที่ทุกคนเห็น และด้วยความที่มันมีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมคอนจึงถือเป็นมหันตภัยร้ายในการแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายทําลายสุขภาพของเราได้ อย่างง่ายดาย เมื่อไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เราจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับ สถานการณ์อยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองและคนที่รัก
จะรู้ได้อย่างไร ? ว่าตัวเองแพ้ฝุ่น PM 2.5
สําหรับบุคคลทั่วไป อาจมีอาการระคายเคืองโพรงจมูก มีจาม น้ํามูกใส ไอ หรือ หายใจไม่สะดวก อาจมีตาแดง คันตา นํ้าตาไหล
สําหรับผู้ป่วยกลุ่มโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบ โรคหอบหืด หรือโรคปอดอื่นๆ จะ พบว่ามีอาการกําเริบของโรคตั้งแต่คัดจมูกมาก มีน้ํามูกไหล ไอ หอบเหนื่อยหายใจเสียงหวีด บางรายอาจรุนแรงถึงระบบหายใจล้มเหลวได้
สําหรับกลุ่มผู้ป่วยภูมิแพ้ผิวหนัง จะมีอาการก้าเริบของโรคคันมาก เกิดผื่นแดง ตามผิวหนั่งคุมโรคไม่ได้
ดูแลตัวเองอย่างไร ? ให้ปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5
พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มน้ําให้มากๆ รับประทานผลไม้ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ หลีกเลี่ยงการออกไปทํากิจกรรมกลางแจ้ง หรือออกกําลัง กายกลางแจ้ง หากเป็นวันที่ค่าของฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ให้หันมาออก กําลังกายภายในอาคารแทน ปิดประตูหน้าต่างให้สนิทป้องกันการเล็ดลอดของ ฝุ่นเข้ามาในอาคารหรือที่พักอาศัย
ในผู้ป่วยกลุ่มโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบและหอบหืด ควรใช้ยาสูดทางปาก และยาพ่นจมูกต่อเนื่อง หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ การล้างจมูกอาจช่วยลดทั้งฝุ่น PM2.5 ในทางเดินหายใจส่วนบน และสารก่อภูมิแพ้ได้
นอกจากนี้ไอเทมที่เราต้องพกติดตัวไว้ตลอด คือหน้ากากประเภทที่สามารถ กรองฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอนได้ เช่น หน้ากาก N95 ที่ได้มาตรฐาน พร้อมศึกษาวิธีสวมใส่ที่ถูกต้องและใช้ทุกครั้งที่มีความจําเป็นต้องออกภายนอกอาคาร
ด้วยความห่วงใย จาก สหประกันชีวิต
ข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท
