แชร์

5 วิธีการรับมืออากาศร้อนให้สุขภาพดีไม่มีโรค

99 ผู้เข้าชม

        ประเทศไทยได้สิ้นสุดฤดูหนาวและเข้าสู่ "ฤดูร้อน" อย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 จากการประกาศของ กรมอุตุนิยมวิทยาแน่นอนว่าทุกครั้งเมื่อเข้าสู่หน้าร้อนสิ่งที่เราต้องระวังคือโรคภัยที่ตามมากับสภาพอากาศที่ร้อนจัด และการใช้ชีวิตประจำวันของตัวเราเองที่ต้องใส่ใจมากขึ้นเมื่อต้องออกจากบ้านไปทำงาน รวมถึงการดูแลตัวเองและคนที่รักให้ปลอดภัย มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ห่างไกลจากโรคภัยต่างๆในหน้าร้อน

        "โรคที่มากับหน้าร้อน" ส่วนมากคือโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เพราะในสภาพอากาศร้อนเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่างๆ ที่อาจแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายโดยเฉพาะจากการรับประทานที่ไม่ถูกสุขอนามัย โดยแบ่งเป็น 5โรคสำคัญ ดังนี้

        1.โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute Diarrhea)เป็นภาวะที่มีการถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป ภายใน 24 ชั่วโมง หรือถ่ายเป็นมูกเลือดมากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งสามารถหายได้เองหากไม่มีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น แต่ในกรณีที่มีอาการรุนแรงมากขึ้น อาจจะถ่ายเหลวเป็นน้มากกว่า 10-20 ครั้งต่อวัน และไม่สามารถรับประทานอาหารหรือน้ำได้เลย ส่งผลให้ร่างกายเกิดภาวะช็อก หรือหมดสติจากการขาดน้ำ

         2.โรคไข้ไทฟอยด์ หรือ ไข้รากสาดน้อย (Typhoid)เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Salmonella Typhi โดยเชื้อชนิดนี้สามารถแพร่กระจายไปยังทุกส่วนของร่างกายได้ ซึ่งติดต่อได้จากการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน และเมื่อเราสัมผัสกับเชื้อชนิดนี้แล้ว อาจส่งผลกระทบต่ออวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้ อีกทั้ง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงถึงขั้นอันตรายถึงชีวิตได้

         3.อาหารเป็นพิษ (Food Poisoning)เป็นโรคที่พบบ่อยในช่วงหน้าร้อน ซึ่งเกิดจากการปนเปื้อนของเชื้อโรคจำพวก S.aureus หรือ B. cereus หรือ C. perfringens ส่วนใหญ่จะมีอาการหลังจากรับประทานที่มีรสจัด หรืออาหารที่ปรุงไม่สุกพอ เช่น อาหารค้างคืน เนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก หรือทานดิบๆ และเมื่อรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไปแล้ว อาจทำให้เกิดอาการต่างๆตามมา ที่ทำให้การใช้ชีวิตของคุณอาจแย่ลง

        4.อหิวาตกโรค (Cholera)เป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงและสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วซึ่งมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย วิบริโอ โคเลอรี (Vibrio Cholerae) ซึ่งเชื้อ
จะเข้าไปอยู่บริเวณลำไส้ และจะสร้างพิษออกมา และทำปฏิกิริยากับเยื่อบุผนังลำไส้เล็ก ทำให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง จนทำให้ร่างกายเสียน้ำหรือเกลือแร่อย่างรวดเร็ว และหากปล่อยไว้ให้อาการรุนแรง ก็อาจอันตรายถึงชีวิตได้ โดยมีปัจจัยเสี่ยงมาจากการรับประทานอาหารที่ไม่ได้ผ่านการปรุงสุก หรือสดสะอาดนั่นเอง

        5.โรคบิด (Dysentery)โรคบิดจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ก็คือ มีตัวก่อบิด และไม่มีตัวก่อบิด ซึ่งโรคบิดที่มีตัวก่อบิดจะเกิดจากเชื้ออะบีนา และเมื่อเชื้ออะมีบาเข้าไปสู่กระแสเลือด หรือแพร่ไปยังอวัยวะภายในต่างๆ ก็อาจทำให้เนื้อเยื่อในอวัยวะต่างๆถูกทำลาย หรือก่อให้เกิดฝีที่อวัยวะต่างๆ และอาจเกิดอาการติดเชื้อ หรืออาการอื่นๆ ที่รุนแรงขึ้นซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงทีก็อาจทำให้อันตรายถึงชีวิตได้

        

        เมื่อทราบถึงโรคภัยต่างๆ ที่ต้องระวังในช่วงหน้าร้อนแล้ว คราวนี้มาดู 5 วิธีการรับมืออากาศร้อนที่จะช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคดังกล่าวกันบ้าง มาดูกันเลย!

  1. ดื่มน้ำมากๆ : อากาศร้อนอาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและสูญเสียน้ำได้ง่าย ดังนั้นควรดื่มน้ำเป็นประจำเพื่อรักษาความชื้นของร่างกาย และลดการเกิดอาการต่างๆ เช่น อ่อนเพลีย คลื่นไส้
  2. เน้นรับประทานอาหารที่ปรุงสุก เเละปรุงใหม่ : การปรุงอาหารอย่างถูกวิธีจะช่วยลดการสะสมของพิษในร่างกาย เพราะอาหารที่ไม่ได้รับการปรุงสุก หรือปรุงใหม่ อาจมีการปนเปื้อนของแบคทีเรีย และไวรัส ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
  3. รักษาอุณหภูมิร่างกาย : อากาศร้อนอาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย และมีเหงื่อออกมากขึ้น ควรรักษาอุณหภูมิร่างกายด้วยการอาบน้ำเย็น หรือใช้ผ้าเช็ดตัวชุบน้ำเย็นเช็ดหน้า และตามร่างกาย
  4. ลดการออกกำลังกาย : ลดการออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากเพราะอากาศร้อนอาจทำให้ร่างกายระบายความร้อนไม่ทัน และออกซิเจนไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย แนะนำให้เลือกกิจกรรมเบา ๆ เช่น วิ่ง หรือโยคะยามเย็น
  5. รักษาอุณหภูมิของร่างกาย : การรักษาอุณหภูมิของร่างกายในช่วงอากาศร้อนเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเมื่ออากาศร้อนจัด ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อต้องรับมือกับอันตรายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิร่างกายได้ เช่น หากอยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนมากควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่มีลักษณะบางเบา และปลอดโปร่ง ไม่รัดแน่นจนเกินไป เพื่อช่วยลดอุณหภูมิภายใร่างกายให้เกิดความสมดุ

        สุดท้ายนี้ อยากฝากถึงบ้านไหนที่มีผู้สูงวัย โดยเฉพาะคุณพ่อ คุณแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ควรให้ความใส่ใจท่านเป็นพิเศษ อย่าปล่อยให้เกิดภาวะขาดน้ำในร่างกายเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ถึงขั้นเป็นลมหมดสติได้ หากพบอากาผิดปกติในช่วงนี้ให้รีบพาท่านไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาทันที

ด้วยความห่วงใย จาก สหประกันชีวิต

ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมอุตุนิยมวิทยา, โรงพยาบาลเปาโล และโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ (Cookies Policy)
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy